I/ เทคนิคการหาสินค้าที่การขาย
เริ่มต้นจากสิ่งที่คุณชอบและใช่ที่สุด เพราะสิ่งที่คุณชอบจะทำให้คุณมีความสุขในการขายผลิตภัณฑ์หรือตัวแบรนด์ที่คุณคิดค้นขึ้นมาเองและสิ่งที่ใช่นั้นก็มีความสำคัญเป็นอย่างมาก คือการหาสินค้าที่ใช่กับตลาดดูว่าสินค้า Trend แบบไหน ตัวไหน ที่มาแรงในช่วงเวลานี้ยุคนี้แล้วเริ่มทำการลงทุนแต่อย่าลืมดูต้นทุนของตัวคุณเองด้วยว่าคุณลงทุนไปแล้วมีกำไรหรือได้ต้นทุนกลับมาบ้างไหมและความอดทนเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการสร้างสินค้าหรือแบรนด์ขึ้นมา เพราะก้าวแรกมันยากเสมอ ความอดทนจะเป็นตัวช่วยให้คุณผ่านอุปสรรคและความยากลำบากในการสร้างสินค้าหรือแบรนด์ขึ้นมาได้
II/ เทคนิคการสร้างแบรนด์ให้น่าสนใจ
การสร้างแบรนด์ของคุณให้มีความน่าสนใจ จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าที่คุณต้องการจะขายยังสามารถต่อยอดและพัฒนาสินค้าอื่นๆ โดยอยู่ภายใต้แบรนด์เดียวกันได้ การสร้างแบรนด์ที่ดีนั้น คุณจะต้องมีวิธีการคิดริเริ่มสร้างแบรนด์ โดยขั้นตอนดังต่อไปนี้การสร้างแบรนด์ของคุณให้มีความน่าสนใจ จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าที่คุณต้องการจะขายยังสามารถต่อยอดและพัฒนาสินค้าอื่นๆ โดยอยู่ภายใต้แบรนด์เดียวกันได้ การสร้างแบรนด์ที่ดีนั้น คุณจะต้องมีวิธีการคิดริเริ่มสร้างแบรนด์ โดยขั้นตอนดังต่อไปนี้
1.ตัวเองเป็นใครในตลาด
อันดับแรกคุณต้องรู้ก่อนว่าตัวคุณเองต้องการทำอะไร ขายอะไร และมีความเชี่ยวชาญ ในการจัดการสินค้าหรือบริการนั้น มากแค่ไหนคุณต้องหาตำแหน่งในตลาดของตัวคุณให้เจอ เพื่อให้คุณสามารถกำหนดกลุ่มลูกค้าตรงกับเป้าหมายได้
2.แบรนด์ไม่ใช่แค่โลโก้
โลโก้คือตัวแทนของสินค้าหรือองค์กร แต่ไม่ทั้งหมดของแบรนด์ แต่แบนรด์นั้นก็มี องค์ประกอบหลายๆอย่าง แต่คุณยังสามารถที่จะเลือกองค์ประกอบที่มีความสอดคล้องกับตัว สินค้าหรือบริการได้อย่างเช่น สีของแบรนด์ รูปแบบการบริการ บรรจุภัณฑ์ ชุดพนักงาน สโลแกน ฯลฯ โดยการสร้างแบรนด์ทำให้ธุรกิจของคุณมีโอกาสขยายมาก
3. ใช้เครื่องมือหรือตัวช่วยในการประชาสัมพันธ์ให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก Social media
การประชาสัมพันธ์ใน Social media อย่างเช่นนำตัวสินค้าของแบรนด์ไปโปรโมทใน Facebook Instagram และอื่นๆ จะช่วยให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น และสามารถหาลูกค้าใหม่ ได้มากขึ้นเช่นเดียวกัน
4.การดูแลใส่ใจลูกค้า
สอบถามความคิดเห็นของลูกค้าว่ามีความพึงพอใจหรือข้อติชมอย่างไรบ้าง เพื่อที่คุณ จะได้นำความคิดเห็นของลูกค้าไปปรับปรุงและพัฒนาให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า มากยิ่งขึ้น
III/ เทคนิคการโปรโมทเพจ/ให้ลูกค้ารู้จัก
ปัจจุบันการโปรโมทสินค้าด้วย Content Marketing ใน Facebbok มีความนิยมมากยิ่งขึ้น จึงต้องสร้าง Content ของสินค้าให้มีความแปลกใหม่และน่าสนใจเพื่อจะช่วยดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาติดตามเพจมากขึ้น Content นั้น สามารถให้ลูกค้าเข้าใจง่ายๆ อย่างเช่น รูปภาพ หรือสื่อ ที่สามารถเข้าใจสินค้าของเราได้ทันที และอาจจะใช้วิธีกิจกรรมแจกรางวัลให้ผู้ติดตามเพจหรือลูกค้าของเราได้ร่วมเล่นกิจกรรม โดยมีเป้าหมายเพื่อดึงดูดความสนใจจากลูกค้าเก่าและใหม่ ให้เข้ามามีส่วนร่วมกับกิจกรรมของเพจ เพื่อให้พวกเขาจดจำ และมีความรู้สึกที่ดีต่อเพจหรือสินค้าของเรา
IV/ เทคนิคการบริหารจัดการเพจ
- เลือกใช้ภาพโปรไฟล์และภาพหน้าปกให้ตอบน่าสนใจ: ภาพโปรไฟล์มีขนาดที่เหมาะสมในปัจจุบันสามารถใส่วิดีโอแนะนำที่หน้าปกได้แล้ว ยิ่งทำให้เพจของคุณมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
- ปักหมุดโพสที่สำคัญๆ: ให้อยู่บนสุดโดยการปักมุดโพส เพื่อให้ลูกค้าที่สนใจสามารถมองเห็นได้ง่ายและสามารถเข้าถึงเนื้อหาที่ต้องการให้ลูกค้าดูได้
- เขียนบทวิจารณ์และให้ดาว: เพื่อให้ลูกค้าหรือผู้เข้าชมเพจได้รีวิวหรือวิจารณ์ตัวแบรนด์หรือสินค้าของเรา เพื่อได้รับข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาของแบรนด์และได้พัฒนาแบรนด์ให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งหากแบรนด์ของเรามีมาตรฐานที่ดีแล้ว ก็จะช่วยให้เพจมีคำวิจารณ์ที่ดีและดาวเพิ่มขึ้น
- ตอบกลับข้อความอย่างรวดเร็ว: เมื่อเราตอบบกลับลูกค้าที่ให้ความสนใจเร็วมากเท่าไร จะแสดงถึงความใส่ใจ ทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ และมั่นใจว่าจะได้รับคำตอบที่ต้องการอย่างทันท่วงทีอีกด้วย
V/ เทคนิคบริการมัดใจลูกค้า
การมัดใจลูกค้านั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อให้ลูกค้าใหม่ที่พึ่งเข้ามาใช้บริการของร้านคุณได้กลายเป็นลูกค้าถาวรกับตัวแบรนด์หรือสินค้าของคุณ มีเทคนิคดังนี้
- การจำชื่อลูกค้าได้: การแสดงความใส่ใจต่อลูกค้า สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า
- คำทักทายสร้างความสุข: คำทักทายที่เป็นกันเอง หรือคำอวยพรให้กับลูกค้าที่สร้างความรู้สึกดีๆ ต่อแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ได้ เช่น คำกล่าวช่วงเทศกาล “สวัสดีวันปีใหม่ค่ะ” “ขอให้ความความสุขในช่วงเทศกาลนะคะ”
- ปรับรูปแบบหรือผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า: เป็นเคล็ดลับที่จะเอาใจลูกค้าให้เชื่อถือและมีความภักดีต่อสินค้าของเรา แล้วยังจะช่วยพัฒนาสินค้าให้สามารถเติบโตไปทางที่ถูกต้องและสามารถเจาะกลุ่มตลาดลูกค้าที่ต้องการได้
- การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า: ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ามีจำเป็นอย่างมากโดยเฉพาะแบรนด์หรือสินค้าที่พึ่งเกิดใหม่ เพราะการจัดการหรือกระบวนการต่างๆ ยังไม่ลงตัว ทำให้อาจจะเกิดเหตุการณ์หรือปัญหาขึ้นได้ตลอด ดังนั้นการหาวิธีป้องกัน หรือการมีสติ เป็นอย่างมาก เมื่อปัญหาเกิดขึ้นคุณต้องนำปัญหามาวิเคราะห์และหาวิธีแก้ไขถาวร เพื่อจะขจัดปัญหานั้นไม่ให้เกิดขึ้นมาอีก
VI/ เทคนิคการดูแลลูกค้าเก่าอย่างไร
เทคนิคการดูแลลูกค้าเก่า
- สม่ำเสมอ: มีความสม่ำเสมอในการติดต่อสื่อสาร ส่งโปรโมชั่น หรือสิทธิพิเศษในการซื้อสินค้าสม่ำเสมอ มีความสม่ำเสมอในการติดต่อสื่อสาร ส่งโปรโมชั่น หรือสิทธิพิเศษในการซื้อสินค้า ให้กับลูกค้าเก่าเรื่อย ๆ
- หาโอกาส: หาโอกาสที่จะขายสินค้าให้กับลูกค้าเก่า เพื่อคุณจะได้รู้ว่าสินค้าคุณยังเป็นที่ต้องการหาโอกาส หาโอกาสที่จะขายสินค้าให้กับลูกค้าเก่า เพื่อคุณจะได้รู้ว่าสินค้าคุณยังเป็นที่ต้องการ ของลูกค้าเก่าความสนใจหรือความต้องการผลิตภัณฑ์ใดของคุณอีกไหม จะได้ทำการ วิเคราะห์และจัดโปรโมชั่น
- บอกต่อ: สร้างโอกาสให้ลูกค้าบอกต่อผลิตภัณฑ์หรือสินค้าของคุณไปให้คนอื่น ๆ รู้จักเพิ่มมากสร้างโอกาสให้ลูกค้าบอกต่อผลิตภัณฑ์หรือสินค้าของคุณไปให้คนอื่น ๆ รู้จักเพิ่มมาก ยิ่งขึ้นทำให้ผลิตภัณฑ์ของคุณนั้นเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
- ดูแลให้ดี: ลูกค้าเก่าเปรียบเหมือนขุมทรัพย์ของผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ของเรา ควรดูแลลูกค้าเก่า ลูกค้าเก่าเปรียบเหมือนขุมทรัพย์ของผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ของเรา ควรดูแลลูกค้าเก่า สอบถามหรือวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า เข้าใจ ใส่ใจ และบริการด้วยใจ
VII/ เทคนิคการหาลูกค้าใหม่
- ฐานลูกค้าเก่า: การหาลูกค้าใหม่จากฐานลูกค้าเก่า โดยการบอกต่อหรือการรีวิวสินค้าผ่านการหาลูกค้าใหม่จากฐานลูกค้าเก่า โดยการบอกต่อหรือการรีวิวสินค้าผ่าน ลูกค้าเก่าจะช่วยให้เกิดความเชื่อใจ และเรียกความสนใจจากลูกค้าใหม่
- โปรโมท: การหาลูกค้าใหม่ด้วยการโปรโมทสินค้า หรือการสร้าง Content ที่น่าสนใจ การหาลูกค้าใหม่ด้วยการโปรโมทสินค้า หรือการสร้าง Content ที่น่าสนใจ เพื่อให้ลูกค้าใหม่เข้ามาชมเพจ กดติดตามเพจ หรือกลายมาเป็นลูกค้าใหม่มาก ยิ่งขึ้น
- กิจกรรม: การหากิจกรรม หรือการส่งเสริมกิจกรรมทางสังคม นอกจากจะทำให้แบรนด์ หรือสินค้าได้รับความชื่นชมแล้ว ยังได้ขยายฐานลูกค้าที่ใหม่เพิ่มขึ้นจากการ เข้าไปมีส่วนร่วมกิจกรรมทางสังคม
- การร่วมมือ: การร่วมมือกับธุรกิจใกล้เคียง จะเป็นผลดีกับทั้งสองธุรกิจ เพื่อเป็นการดึงดูด และเข้าถึงลูกค้าใหม่ให้กับธุรกิจทั้งสอง
- การออกบูธ: การออกบูธตามงานมหกรรมต่าง ๆ จะช่วยแนะนำแบรนด์หรือสินค้าของเราการออกบูธตามงานมหกรรมต่าง ๆ จะช่วยแนะนำแบรนด์หรือสินค้าของเรา ให้ขยายมากยิ่งขึ้น และทำให้ได้เจอลูกค้าใหม่ๆที่ให้ความสนใจเกี่ยวกับ แบรนด์ของเรามากยิ่งขึ้น